ประเทศไทยมีรายงานพบ นกล่าเนื้อในเวลากลางวัน ประกอบด้วย เหยี่ยว นกอินทรีและอีแร้ง จำนวน ๕๕ ชนิด กลุ่มศึกษาเหยี่ยวและนกอินทรีอพยพผ่านเขาโพธิ์ ตำบลไชยราช อำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวน ๒๓ ชนิด โดยระหว่างปลายเดือน กันยายน ถึง ต้นเดือนพฤศจิกายน โดยพบเหยี่ยวอพยพ ๖ ชนิดหลัก ที่มีจำวนมากกว่า ๑,๐๐๐ ตัว ได้แก่ เหยี่ยวกิ้งก่าสีดำ เหยี่ยวนกเขาพันธุ์จีน เหยี่ยวหน้าเทา เหยี่ยวผึ้ง เหยี่ยวนกเขาพันธุ์ญี่ปุ่น เหยี่ยวนกเขาชิครา
สำหรับนักนิยมธรรมชาติหรือนักท่องเที่ยวทั่วไปที่สนใจเดินทางไปชมเหยี่ยวอพยพ ปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่พบเห็นได้ง่ายๆ ปีละครั้งในฤดูกาลอพยพต้นหนาว ควรให้เวลากับตนเองอย่างน้อย ๒-๓ ชั่วโมง ในการเฝ้ารอการอพยพผ่านของเหยี่ยวอพยพตามจุดต่างๆ ปริมาณการอพยพของเหยี่ยวแต่ละจุด จะผันแปรตามสภาพอากาศและทิศทางลม ดังนั้นควรอดทน เฝ้ารอแล้วจะได้ชมภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจ ช่วงเวลาที่เหมาะสม ที่มีโอกาศเห็นเหยี่ยวอพยพบินต่ำและใกล้ ตั้งแต่ ๐๘.๐๐ -๑๑.๐๐ น. และ ๑๕.๐๐ - ๑๗.๐๐ น.
การเตรียมตัว ทั้งการแต่งกาย ให้เหมาะสมกับสภาพอากาศที่อาจเปลี่ยนแปรกะทันหัน ป้องกันได้ทั้งแสงแดด หรือฝน และอุปกรณ์ช่วยอำนวยความสะดวก เช่น เก้าอี้นั่ง ร่มกันแดด และกล้องส่องนกซึ่งสำหรับบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้ใช้กล้องส่องนกเป็นประจำ เช่น นักดูนก ควรใช้กล้องที่มีกำลังขยาย ๘ เท่า ที่มีความกว้างห้าเลนส์ ตั้งแต่ ๒๔ มม.ถึง ๔๒ มม . เช่น กล้อง ๘X๒๔ หรือ ๘X๔๐ เป็นต้นไป กล้องส่องนกในกลุ่มนี้จะมีน้ำหนักเบาที่ถือได้ ระยะนาน ยามต้องส่งกราดติดตามฝูงเหยี่ยวอพยพที่เคลื่อนตัวลงใต้ จะช่วยเพิ่มอรรถรสให้การส่องชมเหยี่ยว ที่สำคัญ ไม่ควรใช้กล้องส่องนก ส่องไปที่ดวงอาทิตย์โดยตรง จะทำให้เกิดอันตรายต่อจอประสาทตาจนถึงกับตาบอดได้ ดังนั้นหากส่องดูนกเหยี่ยวบินไปข้างหน้าอยู่เพลินๆ ต้องระวังหากมุ่งไปทางดวงอาทิตย์
ฝูงเหยี่ยวอพยพร่อนเหนือลมร้อน เรียกว่า "Kettle" จะลอยตัวสูงขึ้น เมื่อลมร้อนอ่อนแรงหนุนจะพบได้ง่าย ในสภาพอากาสชื้น หลังฝนตก) เหยี่ยวจำต้องกระพือปีกบินด้วยแรงตัวจากฝูงเหยี่ยวที่รวมตัวกันจะแตกออกเป็นสายยาวเรียกว่า " Streamingout" เมื่อเหยี่ยวอพยพบินตามกันมาเป็นสายคล้ายกระแสน้ำไหล เรียกปรากฎการณ์นี้ว่า "River of raptors"
ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่มีโอกาสพบเห็นเหยี่ยวอพยพบินต่ำและใกล้ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐ - ๑๑.๐๐ น. และ ๑๕.๐๐ - ๑๗.๐๐ น.
เหยี่ยว นกอินทรี และอีแร้ง เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.๒๕๓๕ การล่าทำร้ายให้บาดเจ็บหรือตาย หรือดักจับเพื่อซื้อขาย นำมาเป็นสัตว์เลี้ยง เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก กลุ่มศึกษาเหยี่ยวและนกอินทรีในประเทศไทย
|